กว่าจะงามคมอย่างงี้ คนไหนกันจะทราบ..ว่าเจ็บมาเยอะแยะ! สาวจังหวัดเชียงใหม่หน้าคมงามมองมีเอกลักษณ์คนนี้ คุณรักความสวยสดงดงามมาตั้งแต่เด็กๆเมื่อโตขึ้นก็ได้เข้ามาอยู่จังหวัดกรุงเทพมหานคร อีกทั้งดำเนินงานและก็เรียนไปด้วย ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งส่วนใดที่เว้นแต่ที่ได้ให้ครอบครัวแล้ว คุณยังมอบความสบายให้กับตนเอง ด้วยการดูแลความงดงามที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กๆวันนี้คุณยินดีที่จะแชร์ประสบการณ์จริงหัวข้อการศัลยกรรม “เสริมจมูก” และก็ การอัพงามของคุณให้กับผู้หญิงโดยคุณได้เกริ่นไว้ว่า ... “ก่อนหน้าที่จะมาแก้จมูก แอ๋มเคยทำปากกระจับที่ SLC มาก่อนนะคะ ส่วนจมูกก็ได้เคยทำมาทั้งผอง 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 - 3 แอ๋มทำจากที่อื่นหมดเลย ซึ่งมีคราวหนึ่งช้ำใจเยอะที่สุด ได้จมูกมาแบบที่ไม่เป็นไปอย่างที่ตกลงไว้ ก็เลยต้องการนำเรื่องราวมาแชร์กับคนอื่นๆเช่นกันจ้ะ ว่าสำหรับเพื่อการทำแต่ละครั้ง พวกเราจะต้องพบกับอะไรมาบ้าง”
ทำจมูกทีแรก เบี้ยว ไม่กล้าถ่ายภาพหน้าตรง
คุณได้เอ๋ยถึงการศัลยกรรมเสริมจมูกในแต่ละครั้งว่า ... “ส่วนตัวรู้สึกว่าหน้าตนเองเหมาะสมกับทรงจมูกที่มีสันสูงมากขึ้นมาหน่อยแบบไม่สโลฟ มองเปรี้ยวๆคมๆมากยิ่งกว่า มีความรู้สึกว่าทรงจมูกที่มองหวานๆจะไม่ค่อยเป็นตัวเองมากแค่ไหนนะคะ แอ๋มได้เคยทำจมูกมาทั้งผองจะมี 4 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 1 – 3 แอ๋มได้ทำที่สถานพยาบาลอื่น ส่วนครั้งที่ 4 ได้ตกลงใจมาแก้จมูกที่ SLC นี่แหละจ้ะ” รวมทั้ง เมื่อกล่าวถึงการศัลยกรรมเสริมจมูกในหนแรก คุณได้เล่าว่า ... “เสริมจมูกคราวแรกแอ๋มก็ยังเด็กอยู่นะคะ จะเรียกว่าตามเพื่อนฝูงๆไปก็ได้ ข้างหลังทำออกมาแล้วสารภาพว่าทรงจมูกดูดีเลย แม้กระนั้นเพียงพอยุบแล้ว นานๆไปจมูกเอียง แอ๋มก็จะไม่ถ่ายรูปมุมหน้าตรงเลยนะ เนื่องจากว่ามันชัดมากมายๆ”
แก้จมูกครั้งที่ 2 บอบช้ำกาย เสียใจที่สุด ทรงจมูกไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
“พอเพียงทำจมูกทีแรกมาแล้วเบี้ยว ต่อนี้ไปแอ๋มเลยคิดแก้จมูกเป็นครั้งที่ 2 จ้ะ รอบนี้ช้ำใจมากมายเลยจริงๆตกลงกันอีกทรง แต่ได้อีกทรง แล้วแอ๋มก็ติดต่อกลับไปที่คลินิคนะคะ แต่ว่าก็ไม่มีผู้ใดรับผิดชอบเลย แถมพวกเรายังได้ทรงจมูกที่เกลียด ซิลิโคนมันสั้นกว่าจมูก รวมทั้ง มองสโลฟ ในเวลานั้นแอ๋มเสียค่าใช้จ่ายไป 20,000.- แต่ว่ารู้สึกเศร้าใจมากยิ่งกว่าที่แพทย์ไม่รักษาสัจจะ ข้างหลังทำจมูกยังบอบช้ำเป็นเดือนๆมีลักษณะอักเสบอีก ซึ่งบุคคลอื่นบางทีก็อาจจะมองว่ามันก็โอเคแล้ว แม้กระนั้นตัวแอ๋มเองแอ๋มมีความรู้สึกว่าจมูกทรงนี้มันไม่ใช่ตัวแอ๋มเลย”
แก้จมูกครั้งที่ 3 ดั้งจมูกสูง ปลายพุ่ง กลัวซิลิโคนทะลุ
“จากที่แอ๋มได้แก้จมูกครั้งที่ 3 จากสถานพยาบาลหนึ่งมา จำต้องเห็นด้วยว่าแพทย์ทำเป็นงามเลยล่ะจ้ะ แม้กระนั้นเพียงพอยุบบวมลงสุดกำลังแล้ว ดั้งจมูกกลับมองโด่งจนกระทั่งมองหลอก แกนจมูกค่อนข้างจะใหญ่ไม่ได้ส่วนกับบริเวณใบหน้า อย่างในตอนที่พวกเราถ่ายรูปก็จะไม่สามารถที่จะถ่ายได้ทุกมุม เวลาเสริมสวยก็จำเป็นต้องไลท์ดั้งจมูกให้มองเล็กลงอยู่ตลอด ถ้าหากไมได้เสริมสวยสันจมูกจะมองลอยๆมาจากหัวขนคิ้วเลยจ้ะ อีกอย่างแอ๋มกลัวว่าจมูกจะทะลุด้วยเลยคิดที่จะแก้จมูกอีกรอบ ซึ่งแอ๋มมีความคิดว่าคราวนี้ ต้องการให้เป็นหนสุดท้ายแล้ว อยากได้จมูกซึ่งสามารถอยู่กับพวกเราไปได้ตลอด และก็ พวกเราเป็นทรงที่พวกเราพึงพอใจที่สุด”
เสียน้ำตามาหลายคราว แก้จมูกครั้งที่ 4
“ภายหลังที่ได้เรียนรู้มา 1 ปีเต็ม มองว่าวิธีไหนจะเหมาะสมกับทรงจมูกพวกเรา แล้วก็ ให้พวกเราได้ทรงจมูกที่อยากได้ แพทย์ก็น่ารักน่าเอ็นดูมากมายนะคะ แอ๋มจะเป็นพวกจิตตก เวลาแผลยังไม่หาย หรือ ยังไม่เข้าที่เข้าทางก็งอแงตลอด แต่ว่าตรงนี้เค้าให้คำแนะนำ รวมทั้ง ต่อกรกับคนงอแงอย่างแอ๋มได้ 55555 แอ๋มเริ่มจากติดต่อผ่านเซลล์ นัดหมายขอคำแนะนำกับแพทย์ก่อน แอ๋มถามมากไม่น้อยเลยทีเดียวมายเลยจ้ะ แพทย์ก็ใจเย็นตอบหมดทุกปัญหา และก็ ยังวาดภาพองค์ประกอบจมูกที่จะเสริมให้มอง ให้พวกเราได้ทราบ และก็ ให้ตกลงใจเอง ว่าควรจะทำแบบไหน อีกทั้งเคล็ดวิธีต่างๆแล้วก็ ซิลิโคนเสริมจมูกประเภทต่างๆเอ่ยถึงความไม่เหมือนว่าเคล็ดลับแบบไหน ไม่เหมือนกันเช่นไร พวกเราก็เพลิดเพลินใจ แล้วก็ แพทย์รู้เรื่องปัญหาของจมูกก่อนแก้ได้ดิบได้ดีว่าคืออะไรเลยตกลงใจทำสำหรับเพื่อการทำจมูกครั้งที่ 4 แอ๋มได้ทำจมูกแบบแนวทางปิดนะคะ ด้วยซิลิโคนเหลาจ้ะ” “แล้วทำนัดหมายวันทำ แล้วก็ ในวันที่ทำก็คุยกับแพทย์อีกครั้งก่อนขึ้นเขียงเรื่องทรงจมูกให้รู้เรื่องตรงกัน แล้วหลังจากนั้นเปลี่ยนแปลงชุด คลีมหน้า ทานยาพารา แก้อักเสบ รวมทั้ง เซ็นใบเห็นด้วยการผ่าตัดจ้ะ สำคัญมากนะคะ การศัลยกรรมควรจะมีการยินยอมพร้อมใจรับการผ่าตัด ซึ่งจะเป็นการรองรับความปลอดภัยของตัวเราด้วยจ้ะแล้วพยาบาลผู้ช่วยก็จะกระทำฆ่าเชื้อโรคที่บริเวณใบหน้า แล้วก็ จมูก แล้วหลังจากนั้นแพทย์ก็เริ่มกระทำฉีดยาชา บอกเลยว่าเจ็บเพียงแค่เข็มแรกเข็มเดียวเพียงแค่นั้น รวมทั้ง แพทย์ก็เอาซิลิโคนเก่าออก และก็ เริ่มเหลาซิลิโคนอันใหม่ ระหว่างที่ทำแพทย์จะคุยตลอด บอกตลอด ทำให้พวกเราเพลิดเพลินใจ เพียงพอเสร็จแล้ว แพทย์ก็จะให้ดูกระจก แล้วก็ เปะพาสเตอร์เพื่อลดการคลุ้มคลั่งของเลือด ซึ่งแพทย์ก็เสนอแนะให้ติดไว้ 2 – 3 วันจ้ะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น